ฟอสฟาติดิลเซอรีน

1. สตรีมีครรภ์:

การเสริมฟอสฟาติดิลเซอรีนในปริมาณที่พอเหมาะในระหว่างตั้งครรภ์ไม่เพียงแต่จะทำงานร่วมกันกับ DHA ส่งเสริมการดูดซึมซึ่งกันและกัน และส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของทารกในครรภ์เท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาความตึงเครียดในระหว่างตั้งครรภ์ ลดความเครียด และลดการเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

2. ทารกในครรภ์และทารก:

ฟอสโฟลิปิดมีความจำเป็นต่อการพัฒนาระบบประสาทของทารกในครรภ์และทารก สมองของมนุษย์มีเซลล์ประมาณ 15,000 ล้านเซลล์ ซึ่ง 70% ของเซลล์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในร่างกายของแม่ ดังนั้นช่วงวัยทารกจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับการสร้างและพัฒนาของสมอง ฟอสโฟลิปิดสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตและการพัฒนาของระบบประสาทของสมองและปริมาตรของสมอง ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาจึงกำหนดให้ต้องเติมฟอสโฟลิปิดลงในนมผงสำหรับทารก ทารกในครรภ์มีความต้องการฟอสโฟลิปิดเป็นจำนวนมากในระหว่างการสร้างและพัฒนา และปริมาณฟอสโฟลิปิดที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาสมองนั้นสูงกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆ ถึง 2 ถึง 3 เท่า

3. วัยรุ่น:

เนื่องจากความกดดันจากการเรียนและการสอบ สมองของวัยรุ่นจึงมักอยู่ในภาวะทำงานที่เร่งรีบ และปริมาณสารสื่อประสาท (อะเซทิลโคลีน) ที่ถูกบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก หากไม่สามารถเสริมสารเหล่านี้ได้ทันเวลาและในปริมาณที่เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานปกติของสมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้เกิดอาการหลงลืมและขาดสมาธิ

4. วัยกลางคนและผู้สูงอายุ:

เมื่อคนเราเข้าสู่วัยกลางคน การทำงานของสมองจะค่อยๆ ลดลง เมื่อเข้าสู่วัยชรา เซลล์สมองจะค่อยๆ ตายลง และปริมาณของอะเซทิลโคลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทจะลดลง ส่งผลให้ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง การเคลื่อนไหวช้าลง สูญเสียความทรงจำ และอาจถึงขั้นเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้